เนื่องจากการแข่งขันด้านการตลาด มีความดุเดือดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้การพึ่งพาแผนลดแจกแถมเพียงกลยุทธ์เดียว ไม่มีพลังเพียงพอต่อการขับเคลื่อนกิจการ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจหลายประเภท จึงเลือกตัวช่วยที่แรงกว่าเข้ามาเสริม
หนึ่งในตัวช่วยทรงพลังที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ได้แก่ การตลาดเชิงรุก (Proactive or Offensive marketing) หมายถึง การวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจของตน รวมทั้งความต้องการของลูกค้า นำมาคาดการณ์ความน่าจะเป็น ก่อนทดลองสินค้าใหม่ตามที่วางแผนไว้ นอกจากนั้น กลยุทธ์นี้ยังหมายถึงการค้นหาจุดแข็งจุดอ่อนของคู่แข่ง นำมาเป็นข้อมูลทำแผนการตลาดด้วย
5 อาวุธทรงประสิทธิภาพ
การตลาดเชิงรุก มีแนวทางส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับใช้ลงมือปฏิบัติ 5 วิธี คือ
การจู่โจมแบบซึ่งหน้า หมายถึง การออกผลิตภัณฑ์ใหม่มาจำหน่ายคู่กับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันของคู่แข่ง โดยพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพดีกว่าหรือเท่ากับของคู่แข่ง แต่ตั้งราคาขายต่ำกว่า- กลยุทธ์ตีโอบ หรือกลยุทธ์โอบล้อม ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เหมือนกับของคู่แข่ง อาจจะคุณภาพเท่ากับของคู่แข่ง หรือด้อยกว่าเล็กน้อย นำไปจำหน่ายแบบปูพรม ค่อย ๆ ชิงผู้บริโภคจากคู่แข่ง จนกระทั่งสามารถตีเสมอหรือชนะคู่แข่งได้ในที่สุด
- กลยุทธ์ก้าวกระโดด เป็นแผนพลิกโฉมธุรกิจที่นำไปสู่ภาวะ Disruption หรือการล้มล้างธุรกิจเดิม เป็นการชิงตลาดด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรม เช่น อินเทอร์เน็ต ที่สามารถนำมาใช้งานทางธุรกิจได้ดีกว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์แบบดั้งเดิม
- เจาะตลาดที่ถูกเมิน โดยใช้วิธีหาข้อมูลจากทุกด้าน รวมทั้งในโลกออนไลน์ และตระเวนไปดูสถานที่จริง เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นตลาดที่คู่แข่งมองข้ามจริง จากนั้น ก็จัดการวางสินค้าเพื่อครองตลาดดังกล่าว
- ซื้อกิจการคู่แข่ง เป็นกลยุทธ์ที่ง่ายไม่ต้องเสียเวลาคิดวางแผน แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้เฉพาะเจ้าของธุรกิจที่มีเงินทุนมากเท่านั้น